เรามาทำความรู้จักกับ เมืองอี้อู กัน เมืองแห่งอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในจีน

"อี้อู" เมืองที่รวมแหล่งสินค้า จากโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในจีน

ในทุกๆ ปีเราจะได้ยินว่ามีการจัดแสดงนิทรรศการ งานเทคโนโลยีอุตสาหกรรม วิวัฒนาการ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่เมืองอี้อู ในช่วงแรกก็เป็นการนำสินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาจัดแสดงโชว์ ซึ่งทุกครั้งที่เราเห็นเราก็จะรู้สึกได้เลยว่า มันเป็นสินค้าที่ว้าวมาก สินค้าที่น่าสนใจมากๆ จากผู้ค้าจำนวนหลายร้อยราย ที่นำสินค้าของตัวเองมาจัดแสดงมาประกาศให้ทุกคนได้รู้จัก ในวงกว้างผ่าน

เมืองอี้อู มีบรรดานักลงทุน นักธุรกิจมากมายที่ต่างต้องการที่จะมาศึกษาโมเดล ศึกษาเทรนด์ของตลาด เรียนรู้ และนำไปประยุกต์ ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังดูอยู่ตรงนี้สามารถนำไปปรับอะไรได้บ้าง นำไปทำตลาดได้ไหม

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ เมืองอี้อูจากตลาดบ้านๆ จะขยับความนิยมจากตลาดนัดทั่วไป กลายเป็นตลาดนัดระดับโลก พ่อค้าแม่ค้าทั่วโลกต่างเดินทางกันมา เพื่อมาดูสินค้าที่เมืองอี้อูกันเป็นจำนวนมาก เพราะคิดว่านี่คือโมเดลการพัฒนาการค้า ที่จะสามารถขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ของตัวเองได้ ถ้าสินค้าตัวไหนโดนจริงๆ ก็ต้องควรรีบจับเอาไว้ก่อนที่จะถูกใครหน้าไหนแย่งไปทำตลาด

เมืองอี้อู ดินแดนแห่งการค้าระหว่างประเทศ

ตามนโยบายยุทธศาสตร์ระดับชาติของจีน ที่มีการปฏิรูปการปกครองให้เมืองอี้อู กลายเป็นเมืองทางด้านการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมานั้นบอกได้เลยว่านโยบายนี้ผลักดันให้เมืองอี้อูได้รับความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก แม้ว่าเมืองอี้อูจะมีขนาดเล็กกว่ากรุงเทพฯ เล็กกว่าพื้นที่ประเทศฮ่องกง

แต่กลายเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญ 1 ใน 5 เมืองที่มีแรงขับเคลื่อนทำให้นักธุรกิจต่างชาติหัน มาลงทุนในประเทศจีน เมืองอี้อูอาจเป็นเมืองที่มีประชากรไม่เยอะมาก ประชากรไม่ถึงสองล้านคน แต่โดยรวมแล้วมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางไป เดินทางมาอยู่ที่เมืองอี้อู มากมายถึงห้าถึงหกแสนคน ซึ่งถือว่าเป็น ประชากรเกือบหนึ่งในสี่ของประชากรในเมืองเลยก็ว่าได้

ไม่มีอะไรเกินจริงไปกว่าเมืองอี้อู

กว่าที่เมืองอี้อูจะเติบโตมา แรกเริ่มเดิมทีเมืองอี้อูก็เป็นแค่เมืองตลาดของพ่อค้าหาบเร่แผงลอย ใครอยากจะขายอะไรก็ขายได้ แต่พอมาในช่วงปี 2525 เริ่มมีการจัดระเบียบแผงลอย ใครที่อยากจะมาขายของในเมืองอี้อู จำเป็นที่จะต้องมีใบอนุญาตการค้า และคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขก่อน ถึงจะมีสิทธิ์เข้ามาขายตั้งแผงลอยในตลาดเมืองอี้อูได้ นี้ถือเป็นยุคเริ่มต้นความเจริญรุ่งเรืองของตลาดระดับโลกเมืองอี้อู

หลังจากที่ตลาดเริ่มได้รับการยอมรับ จากคนมากมาย และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ ค่อนข้างรวดเร็ว กว่าที่คาดไว้ทำให้ในช่วงปี 2527 ตลาดเมืองอี้อูเติบโตจนมีแผงขายสินค้ามากกว่าสองพันแผง และมีผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นคนมาจาก ละแวกใกล้เคียงต่างเมือง มาจับจ่ายใช้สอย เกินครึ่งหนึ่งของประชากรที่อยู่ในเมืองอี้อู ซึ่งมียอดซื้อขายวันหนึ่ง เป็นหลัก ยี่สิบสามสิบล้านหยวนเลยทีเดียว ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมากในช่วงเวลานั้น

และพอมาในยุคที่สามความต้องการของประชากรเติบโตอย่างรวดเร็ว ปี 2528 ตลาดนัดเมืองอี้อูจำเป็นจะต้อง ขยายแผงชั่วคราวออกไปถึงสามร้อยแผง เพราะการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และในท้ายที่สุด ในช่วงเวลานั้น ก็มีจำนวนร้านค้ามาเปิดกันมากถึงห้าพันร้านค้า รองรับการซื้อขายผู้คนจำนวนสามหมื่นคนต่อวัน ซึ่งสามารถทำลายสถิติการซื้อขายสูงสุดทะลุหนึ่งร้อยล้านหยวนได้เป็นครั้งแรก

จากนั้นในยุคที่ตลาดเมืองอี้อูได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ก็มีการขยายตลาดให้ยิ่งใหญ่ตามไปด้วย เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของร้านค้าให้มากถึง 23000 ร้านค้า และทำให้ยอดขาย กระโดดก้าวไกลทะลุหนึ่งหมื่นล้านหยวนในปี 2537 และในปีถัดมาเองก็สามารถทำนิวไฮ สติใหม่ได้ มียอดขายรวมกันสูงถึง 15200 ล้านหยวน

ยุคใหม่ตลาดเมืองอี้อู

ไม่เพียงเท่านั้นตลาดสินค้าส่งออกเบ็ดเตล็ดเมืองอี้อู เข้าสู่ยุคปัจจุบัน ที่เริ่มปรับปรุง และแก้ไขแบ่งโซนตลาดออกเป็นห้าโซนในปี 2544 เพื่อรองรับการซื้อขายมากกว่า 75000 ร้านค้า โดยแบ่งแต่ละโซน ไปตามประเภทของสินค้าได้ดังนี้

  • โซนที่หนึ่งตลาดสินค้าเมืองอี้อู จะขายพวกแฟคตอรี่เอ๊าท์เลท อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน อัญมณี เครื่องประดับจิวเวอรี่ของเล่นเด็ก รวมไปถึง ของตกแต่งตามร่างกายอย่างอื่นๆ ด้วย
  • โซนที่สองตลาดสินค้าเมืองอี้อู ขายสินค้าประเภทนาฬิกา ข้อมือนาฬิกา ทั้งชายหญิง นาฬิกาติดบ้านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านพัดลมตู้เย็น ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์อุปกรณ์ต่างต่าง กระเป๋าสตรี และกระเป๋าเดินทาง จะอยู่ในโซนนี้ทั้งหมด
  • โซนที่สามตลาดสินค้าเมืองอี้อู จะประกอบไปด้วย อุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ นานาชนิด เครื่องสำอาง อุปกรณ์ตกแต่งเสื้อผ้าของใช้ตามสำนักงาน และอุปกรณ์กีฬา แว่นตาทุกชนิด จะอยู่ในโซนนี้
  • โซนที่สี่ ตลาดสินค้าเมืองอี้อู ในโซนนี้จะประกอบไปด้วยของใช้ประจำวันของทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเครื่องประดับ แขนสั้นแขนยาว รองเท้า หุ้มข้อรองเท้าผ้าใบรองเท้าแตะ ถุงเท้าสิ่งทอต่างๆ จะอยู่ในโซนที่สี่ทั้งหมด
  • และโซนสุดท้ายก็จะเป็นโซนสินค้านำเข้า โซนนี้ก็จะมีงานฝีมือที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล งานหัตถกรรม งานพื้นบ้าน งานไฮโซมีหมด งานเครื่องนอนหลากหลายแบบ ต้องลองมาเดินดูถ้าใครชอบสินค้าแนวนี้ถูกใจแน่นอน

สรุปปิดท้ายตลาดส่งออกสินค้าเมืองอี้อู

ตลาดเมืองอี้อูเป็นตลาดที่พ่อค้าแม่ค้า ต่างพากันมาจับจองสินค้าเชิงนวัตกรรม และสินค้าจิปาถะ ที่มีให้เลือกจับจองกันมากมาย ตั้งแต่สินค้าระดับพรีเมี่ยมยันสินค้าระดับบ้านๆ ถูกขนานนามว่า เมืองอี้อูเป็นแหล่งขายสินค้าเบ็ดเตล็ดของโลก (World’s Capital of Small Commodities) ชื่อนี้ไม่ได้มาเพราะคำอวย แต่บอกได้เลยว่ามีตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ถ้ามีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่เมืองอี้อูห้ามพลาดเลยกับแหล่งซูเปอร์มาร์เก็ตระดับโลกแบบนี้

ใครที่กำลังมองหาไอเดียที่จะนำสินค้ามาขายในประเทศไทย หรืออยากไปดูไกด์ไลน์แนวทางในการดำเนินธุรกิจของตัวเอง ก็สามารถเดินทางมาเยี่ยมชมตลาดนัดเมืองอี้อูได้ตลอดเวลา หรือถ้ามองเห็นช่องทางในการที่จะนำสินค้าเข้าไปขายในประเทศไทยก็สามารถติดต่อผ่านทางตัวแทนจำหน่ายได้ เพราะเขามีบริการ นำสินค้าเข้าไปขายในประเทศให้ผ่านทางโลจิสติกส์หลากหลายเจ้า